ดร.พัชรา ตัณฑยรรยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท
มีนบุรีรับสร้างบ้าน จำกัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจรับสร้าง
บ้าน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
จากภาวะขาดแคลนแรงงานวงการรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มาตั้งแต่
ต้นปีนี้ จะมีผลต่อเนื่องไปถึงปีหน้า
ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคม หลายรายต้องชะลอการรับงาน
เนื่องจากมีแรงงานจำกัด
ขณะนี้จึงพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์การรับลูกค้าใหม่ หันมาเลือกรับ
ลูกค้า
ที่ต้องการก่อสร้างบ้านหลังใหญ่ให้มากขึ้น
แรงงานขาด วิกฤตหนัก
สำหรับบริษัทปีนี้ได้งดนำเสนอบ้านหลังเล็กราคาเฉลี่ย 3
ล้านบาท และหันมาเน้น
บ้านหลังใหญ่ราคา 5-6
ล้านบาทมากขึ้น ขณะที่ปีหน้าได้วางนโยบายมุ่งพัฒนา แบบบ้านหลังใหญ่ราคาตั้งแต่ 10
ล้านบาทขึ้นไป
ดร.พัชรากล่าวว่า
นโยบายการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท นำร่อง 7
จังหวัดตั้งแต่ต้นปี ไม่ได้ช่วย
ให้มีแรงงานเข้าสู่ภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้น
แต่ในทางกลับกันผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนใหม่ ส่งผลให้
ราคาบ้านในปีนี้ปรับขึ้นเฉลี่ย 5-8%
"ตั้งแต่ทำธุรกิจรับสร้างบ้านปีนี้เป็นช่วงที่มีปัญหาเรื่องแรงงานมากที่สุด
เรียกว่า เข้าขั้นวิกฤตก็ว่าได้ และ
เป็นอุปสรรค
สำคัญที่สุดที่ทำให้ภาพรวมของธุรกิจ ไม่เติบโตขึ้น"
งดรับสร้างบ้านต่ำ 8
ล้านนายฐกร นิติปัญญาวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมก้า กรุ๊ป จำกัด และเลขาธิการ
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า
ปัญหาแรงงานที่มีจำกัด ส่งผลกระทบต่อการ รับลูกค้าใหม่ตลอดทั้งปี เพราะ
สามารถ รับงานได้ไม่เกิน 15-16
หลัง ก่อนหน้านี้บริษัทจำเป็นต้องลงประกาศข้อความในเว็บไซต์บริษัท แจ้งขอ
อภัยที่ต้องยกเลิกปลูกสร้างบ้านราคาต่ำกว่า 8
ล้านบาททั้งหมด ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องหันไปเน้นการ รับงาน
สร้างบ้านหลังใหญ่ ราคาเฉลี่ย 10-30
ล้านบาท เพื่อให้บริษัทมียอดขายเติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 10-15%
ขณะที่ในปีนี้ได้ปรับราคาบ้านไปแล้ว 5-8%
ปีหน้าคาดว่าจะต้องปรับราคาอีกประมาณ 5%
"ทุกบริษัทเดือดร้อนเหมือนกันหมด
สำหรับไมก้าถ้าลูกค้าเซ็นสัญญาสร้างบ้านเดิมรอ 1 เดือน
แต่วันนี้
ยอมรับว่าประมาณเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมปีหน้าจึงจะเริ่มสร้างได้เพราะมีปัญหาจริง
ๆ ขณะเดียวกันก็
พยายามรั้งแรงงานฝีมือที่เก่งไว้ อย่าง ช่างปูน
เราอยากจ้างคนเดียว แต่มีภรรยาติดมาด้วย เราก็ให้เลย 2 คน
1 พัน
บาทเพื่อจูงใจ จากสมัยที่ไม่ขาดแคลนแรงงานเราจ้างคนเดียว
400 บาทก็ได้แล้ว" นายฐกรกล่าว
>>ปรับแผนอุตลุด เน้นบ้านใหญ่
นายสมพงษ์ กิติมหาคุณ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท
เดอะโมเดอร์นกรุ๊ป เรียลพร็อพเพอทิ จำกัด กล่าวว่า การ
ปรับตัวคือหันมาเน้นรับลูกค้าปลูกสร้างบ้านหลังใหญ่มากขึ้น
โดยเฉพาะบ้านราคา 2-3 ล้านบาท จะงดรับงานเลย
ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยบ้านที่
รับงานจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 10 ล้านบาท ปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 15
ล้านบาท
ขณะที่บริษัทในเครือคือ "ทรอปิคอล
ซีรีส์เฮ้าส์" ที่รับสร้างบ้านระดับกลางล่าง จากเดิมเคยรับบ้านราคา
เริ่มต้นกว่า 1-2
ล้านบาท ปีนี้หันมารับงานราคาประมาณ 3 ล้านบาทบวกลบทั้งหมด
ห่วงแรงงานคืนถิ่น นายธีระศักดิ์ บุญวาสนา
กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อยุธยารับสร้างบ้าน จำกัด เปิดเผยว่า
บริษัทมีแรงงานจำกัดอยู่กว่า 100 คน
ทำให้ปีนี้รับงานได้จำกัดไม่เกิน 15 หลัง ทางออกคือต้องเน้นการรับงานหลัง
ใหญ่ขึ้นคือเป็นบ้านราคา 10
ล้านบาทบวกลบ จากปีที่ผ่านมาเฉลี่ยไม่เกิน 8-9
ล้านบาท
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดิ เอ็มเพอร์เร่อเฮ้าส์ จำกัด เปิดเผยว่า หากรัฐบาลไม่
สามารถนำเข้าแรงงานเพิ่มเติมขึ้นได้
เป็นห่วงว่าในปีหน้าปัญหาแรงงานขาดแคลนในพื้นที่กรุงเทพฯ จะรุนแรง
ขึ้นอีก เนื่องจากการปรับขึ้นค่าแรง 300
บาททั่วประเทศ วิเคราะห์ว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาแรงงานคืนถิ่น
เนื่องจากอยากกลับไปทำงานที่บ้านเกิด
ประกอบกับได้ค่าแรงเท่ากัน
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ วันที่: 26/11/2012