วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เปิดแผน อสังหาสู้ศึกชิงผู้รับเหมาผูกขาดสัญญายาว-รวบทั้งโปรเจค


วิกฤติขาดแคลนแรงงานและ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกในปีหน้า ส่งผลให้บริษัทอสังหาฯทุกระดับ ต้องวางแผนรับมือ ทั้งทบทวนแผนการลงทุน หรือเน้นการเปิดโครงการขนาดเล็ก 100 ยูนิต  ขณะที่รายใหญ่ อาจใช้การว่าจ้างแบบเหมารวมหลายๆโครงการ รวมถึงการทำสัญญาระยะยาว เพิ่มความคล่องตัวบริหารแรงงาน-ต้นทุน- ส่งมอบงาน

อุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท  แสนสิริ จำกัด (มหาชน) แชมป์เปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดในปีนี้ 60 โครงการ กล่าวถึงการบริหารงานก่อสร้างในส่วนของคอนโดมิเนียมว่า จะใช้วิธีการกระจายงานไปยังผู้รับเหมาหลายราย ปัจจุบันนอกจากจะมีผู้รับเหมารายใหญ่เข้ามารับงาน   6 บริษัทแล้ว ยังใช้รูปแบบการเหมารวมหลายโครงการผู้รับเหมา ตั้งแต่ 3 โครงการไปจนถึง  5 โครงการแล้วแต่ศักยภาพ ซึ่งล่าสุดเพิ่งสรุปมูลค่าการก่อสร้างกว่า 4,000 ล้านบาทกับผู้รับเหมารายใหญ่ไป          "วิกฤติแรงงานเป็นปัญหาใหญ่มานาน แต่เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องมีการบริหารจัดการที่ดี เพราะปีหน้าจะเห็นภาพการแย่งชิงตัวผู้รับเหมามากขึ้น"อย่างไรก็ดี บริษัทมีสินค้าขายรอการส่งมอบให้กับลูกค้า (Back log) มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ตกลงราคากับผู้รับเหมาสำหรับโครงการที่เปิดขายไปแล้วกว่า 99%เหลือเพียงโครงการเดียวยังไม่เลือกผู้รับเหมา

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า นอกจากต้องนำเทคโนโลยีก่อสร้างเข้ามาใช้ทดแทนแรงงานฝีมือแล้ว กลยุทธ์ที่จะเห็นมากขึ้นในปีหน้า คือ การจับมือเป็นพันธมิตรมากขึ้นระหว่างบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ กับบริษัทผู้รับเหมารายใหญ่ โดยมองว่าผู้ประกอบการจะอยู่ตามลำพังไม่ได้ ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของผู้รับเหมาก่อสร้าง    "ในปีหน้าการแพ้-ชนะของธุรกิจนี้ ไม่ใช่เรื่องของการขายได้ เพราะหากโอนไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์  แต่จะแข่งเรื่องการบริหารงานก่อสร้างทำอย่างไรให้โอน และส่งมอบโครงการได้ตามกำหนด รวมถึงการควบคุมคุณภาพได้ด้วย จะเห็นภาพของการแย่งชิงผู้รับเหมารุนแรงขึ้นในปีหน้า"

อิสระ บุญยัง นายกสมาคมบ้านจัดสรรไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า การบริหารด้านการผลิตของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง โดยทุกโครงการทั้งแนวราบ-แนวสูง และทุกทำเล จะใช้ระบบพรีแฟบทั้งหมดในปีหน้า ซึ่งช่วยลดการใช้แรงงานลงได้ถึง 50% ปัจจุบันบริษัทได้ลานผลิตพรีแฟบอยู่ 3 แห่ง ที่ ถ.พระราม 2 ,ถ.ประชาอุทิศ และจ.ภูเก็ต

รวมถึงการนำเข้าแรงงานต่างด้าว ซึ่งได้มีการเซ็นเอ็มโอยูกับพม่าไปแล้ว ในการนำเข้าแรงงานเพิ่ม 400 คน ตอนนี้นำเข้ามาแล้ว 240 คน ใช้ในลานผลิตพรีแฟบต่างๆ และเพิ่งเริ่มให้ผู้รับเหมามาขึ้นทะเบียนแจ้งวัตถุประสงค์การใช้แรงงานต่างด้าว โดยบริษัทจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ เพราะผู้รับเหมารายเล็กๆ อาจจะไม่เข้าใจกระบวนการนำเข้าแรงงาน  นอกจากนี้จะนำวัสดุสำเร็จรูปมาใช้มากขึ้น เช่น โครงสร้างหลังคา ประตู และวงกบแบบติดตั้งได้เลย ทำให้บริษัทวางแผนเรื่องเวลาได้
ด้าน วสันต์ เคียงศิริ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานส่งผลให้งานก่อสร้างล่าช้าตามไปด้วย ในขณะที่ยอดขายบ้านเติบโตสวนทางกับงานก่อสร้าง บริษัทจึงหันมาเน้นการเพิ่มพอร์ตบ้านดาวน์ หรือบ้านสั่ง สร้างเพื่อรับมือและแก้ปัญหางานก่อสร้างที่ล่าช้า และยังช่วยเพิ่มกำลังซื้อลูกค้า แก้ปัญหาลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อให้ลดลงไปด้วย
ขณะที่ วิโรจน์ เจริญตรา กรรมการ ผู้จัดการ บมจ.พรีบิลท์ กล่าวว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงานและผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ลักษณะตลาดรับเหมาก่อสร้างเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่ผู้รับเหมาต้องประมูลงาน กลายเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มาเสนองานให้ และบางบริษัทเจรจาเป็นพันธมิตรรับเหมาระยะยาว เพื่อความมั่นใจว่าโครงการจะเดินหน้าได้ตามแผนงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น